ตำนานปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมีที่มาจากหลายประเทศ ทั้งจากอินเดีย จีน และญี่ปุ่น ซึ่งอาจเป็นปีศาจตนเดียวกัน ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ในภาษาญี่ปุ่นมาจากคำศัพท์ว่า 九尾の妖狐 (Kyuubi no Yooko) หากแปลตามตัวอักษรคันจิ九 แปลว่า เก้า 尾 แปลว่า หาง 妖 แปลว่า มีเสน่ห์ น่าหลงใหล และ 狐 แปลว่า สุนัขจิ้งจอก คำว่า 妖狐 เมื่อนำมารวมกันจะมีหมายความว่า ปีศาจจิ้งจอกที่สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้

1(359)

           สำหรับที่มาของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนั้น เขาเชื่อว่าในตอนแรก ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเกิดจากสุนัขจิ้งจอกที่อยากเป็นมนุษย์ จึงพยายามบำเพ็ญเพียรอย่างหนักเพื่อให้มีวิชาอาคม และเมื่อบำเพ็ญเพียรครบ 100 ปี จะมีหางเพิ่มขึ้นมาอีก 1 หาง และเมื่อบำเพ็ญเพียรจนมีครบ 9 หาง จะมีวิชาอาคมที่แกร่งกล้าเป็นอย่างมาก และสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ผู้หญิงที่งดงามได้ อีกทั้งจิ้งจอกเก้าหางยังเป็นสาวกของเจ้าแม่หนี่วา เทพมารดาผู้ให้กำเนิดสรรพสิ่ง ตามความเชื่อของคนจีนอีกด้วย
ตำนานปีศาจจิ้งจอกเก้าหางในประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่า ปีศาจตนนี้ได้แฝงตัวอยู่ในราชสำนักของญี่ปุ่นในรัชสมัยของจักรพรรดิโทบะ หลังจากที่หลบหนีมาจากประเทศอินเดียและประเทศจีน โดยแฝงตัวมาในร่างของหญิงงามนามว่า ทามาโมะ โนะ มาเอะ พระสนมของจักรพรรดิโทบะ ผู้ซึ่งทำให้จักรพรรดิโทบะลุ่มหลงในความงามของนาง จนสุขภาพของจักรพรรดิโทบะทรุดโทรมลงทุกวัน จึงได้มีการอัญเชิญนักพรตมาทำพิธีปัดรังควาน ก็พบว่าในวังมีปิศาจจิ้งจอกเก้าหางสีทองแฝงตัวอยู่

120030257

Nine_Tail_Fox_01

           เมื่อความแตก ทามาโมะ โนะ มาเอะ จึงได้คืนร่างเป็นสุนัขจิ้งจอกสีทองตัวมหึมา มีเก้าหาง เหาะหนีไปบนท้องฟ้า กองทหารของจักรพรรดิโทบะได้ไล่ตามไปจนถึงที่บริเวณภูเขานาสุ เกิดการต่อสู้กัน และสามารถสยบจิ้งจอกเก้าหางลงได้ กลายเป็นหินเซ็ทโชเซกิ ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

tochigi-nasu-sessho-seki-rock-48047