ความสะดวกและความเรียบง่ายล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ในวงการอุตสาหกรรมจึงได้มีการผลิตสินค้า เพื่อออกมาตอบสนองความต้องการของผู้คน ในเรื่องของความง่าย สะดวกสบาย และช่วยประหยัดเวลา ซึ่งสามารถให้การตอบสนองต่อความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับหนึ่งในสินค้าที่นิยมใช้งานกันเป็นอย่างมากก็คือ คอมพิวเตอร์ เพราะนับว่าเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคนในยุคใหม่นี้

เนื่องจากคอมพิวเตอร์มีส่วนช่วยส่งเสริมการทำงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มักจะมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และยังมีข้อดีที่ช่วยในการลดต้นทุน อีกทั้งยังสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและเที่ยงตรง ในปัจจุบันเทคโนโลยีหนึ่งถือว่ามีบทบาทอย่างยิ่งต่อวงการอุตสาหกรรมคือ CAD/CAM/CAE และ CNC วันนี้ลองมาทำความรู้จักกับโปรแกรมที่เรียกว่า CAD ว่ามีความสามารถอย่างไรกันบ้าง

CAD คืออะไร?

CAD ย่อมาจากคำว่า Computer Aided Design ซึ่งก็คือ คอมพิวเตอร์ โดยมีความสามารถในการช่วยออกแบบ ถือเป็นเทคโนโลยีของการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยออกแบบในการสร้างชิ้นส่วนหรือ Part ด้วยแบบจำลองทางเลขาคณิตได้อย่างสร้างสรรค์ (Geometry) ชิ้นส่วนที่ถูกสร้างขึ้นนี้จะเรียกว่าแบบจำลองหรือ  Model และแบบจำลองที่สร้างขึ้นนี้ ก็สามารถแสดงเป็นแบบ Drawing หรือไฟล์ข้อมูล CAD

การใช้ประโยชน์ของ CAD software

  • ใช้สร้างแบบจำลองหรือ model ขึ้นตามแบบที่ต้องการ
  • วิเคราะห์ ประเมินและแก้ไขข้อมูล CAD ของ Part ที่ได้ออกแบบไว้ เพื่อให้สามารถผลิตได้จริงในการผลิตและมี function การทำงานตามจุดประสงค์ของ Part นั้น ๆ
  • ใช้เป็นข้อมูลในการผลิต jig, fixture และเครื่องมือผลิตอื่น ๆ สำหรับใช้ในขั้นตอนการผลิต

การใช้ CAD ของรูปร่าง Part ต่าง ๆ สามารถทำได้ 3 แบบ คือ ปริมาณตัน (Solid modeling) พื้นผิว (Surface modeling) และโครงลวด (Wire frame modeling) ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็เหมาะสมกับงานที่แตกต่างกันไป

Surface modeling

การแสดงผลในรูปแบบนี้ เหมือนกับการนำผืนผ้าสี่เหลี่ยมซึ่งถือว่าเป็น 1 ผิวหน้า (face) มาเย็บต่อกัน จะได้ออกมาเป็นพื้นผิว (surface) บาง คล้ายกับเปลือกนอก การเก็บข้อมูลในลักษณะนี้จะเก็บข้อมูล เส้นขอบ พิกัดของจุด และข้อมูลขอบผิวที่ติดกัน

Solid modeling

เป็นการจำลองข้อมูล 3 มิติ โดยจะถูกเก็บข้อมูลในลักษณะของ ลำดับการนำ%